จัดอันดับการค้นหาของธุรกิจคุณให้ดีขึ้นจาก Google Reviews

24
Jun

สำหรับธุรกิจขนาดย่อม SMEs ที่มีหน้าร้าน แต่อยากทำการตลาดบนออนไลน์ Google เป็นเครื่องมือการตลาดอย่างหนึ่งที่น่าลงทุน เพราะอันดับที่ดีของผลลัพธ์การค้นหาบน Google นั้นหากเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ของร้านเราปรากฏบนอันดับบนๆ ก็จะเพิ่มการเข้าชมหรือ Click Through Rate (CTR) หรืออัตราการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ที่เทียบกับการมองเห็นเพิ่มขึ้น ซึ่งอัตราการเข้าชม หรือ Traffics ของเว็บไซต์ที่มากขึ้นก็จะมีผลต่อจำนวนของลูกค้าที่ต้องการซื้อของบนเว็บไซต์มากขึ้นไปด้วย

20140423094742d5หากผลลัพธ์การค้นหาร้านหรือธุรกิจของเรา เป็นอันดับต้นๆ ก็จะเพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้

แต่ถ้าหากว่าแผนการตลาดของเรารอบนี้มี KPI ของธุรกิจคือการเรียกคนมาที่ร้าน หรือสถานที่ที่เป็นธุรกิจของเราอย่าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง คอนโดมิเนียม ธุรกิจท่องเที่ยวรีสอร์ท หรือร้านอาหาร ล้วนมี KPI ที่คล้ายกันตรงที่ ทำยังไงให้คนที่เห็นโฆษณา หรือโปรโมชันจากเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ของเรานั้นเดินทางมายังสถานที่จริง อย่างเว็บไซต์คอนโดมิเนียมก็ต้องมี KPI คือการเรียกให้ผู้เข้าชมวิ่งเข้ามาลงทะเบียนที่ Sale Site หรือ Sale Gallery เช่นกันร้านอาหาร เมื่อมีเว็บไซต์ มีรีวิวก็ย่อมต้องมีการเรียกคนเข้าชมเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ให้กลับมายังหน้าร้านเพื่อมาตามเมนูอาหารของเราอยู่ดี

“ดังนั้น Search Marketing บน Google นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดอยู่ดี หากว่ามีการติดอันดับบนๆ ของผลลัพธ์ Google แล้วย่อมทำให้เกิดการขายที่ดีขึ้นแน่นอน เพียงแค่ว่ากลยุทธ์การทำการตลาดบน Google นั้นต้องเล่นตามกฏของ Google ซึ่งนั่นคือเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะช่วงหลังมีอัลกอริทึ่ม (Algorithm) ของ Google ตัวใหม่ที่เป็นปัญหามากๆ สำหรับเหล่าคนทำ SEO อย่าง HumingBird ที่มีการตัดคะแนน Ranking ของเว็บไซต์ให้ตกลงไปมากอันดับของเว็บไซต์ที่ทำมานาน  ข้อมูลมีมานานไม่ใช่เว็บที่น่าเชื่อถือต่อไป หากว่า KPI ของกลยุทธ์นี้คือการส่งคนจากโลกออนไลน์ไปยังร้าน หรือที่ตั้งธุรกิจของเรา เครื่องมือที่สามารถช่วยเหลือในกรณีนี้ได้คือ Google+ Local หรือหน้า ธุรกิจของเราที่มีชื่อว่า Local Business”

Local Business บน Google+ ช่วยเหลือการตลาดได้ยังไง
หากลองพิจารณาดูแล้ว ปัจจุบันนี้จะแบ่งผู้บริโภคของ Google ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือผู้บริโภคแบบไม่ระบุตัวตน เราจะเห็นผู้บริโภคเหล่านี้มากมาย ทั่วไปกับการทำกลยุทธ์การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ซึ่งผู้บริโภคเหล่านี้จะใช้เครื่องมือการค้นหามากมายเพื่อทำการรีวิว และค้นหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจ แต่หลังจากที่ Google ได้เปิดตัว Google+ ไป ทำให้ปัจจุบันเกิดกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมาคือ กลุ่มคนที่เป็นผู้บริโภคที่เน้นความสัมพันธ์บนเครือข่ายตัวนี้ กลุ่มที่สองนี้มักจะใช้งาน Google ที่ผ่านการเข้าระบบจาก Gmail หรือ Google+ โดยตรง ซึ่งผลลัพธ์ของ Google ที่ปรากฏจะมีวิธีการแสดงผลที่ยกเอาความชอบของเรา ที่เคยเข้าระบบ Login แล้วเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ไหนบ่อยๆ มาปรากฏในอันดับบนๆ ของหน้าการค้นหา อีกทั้งยังหยิบเอาหน้าของเพื่อนในแวดวง Google+ หรือ Google+ Circle มาปรากฏพร้อม Reviews คะแนนต่อผลลัพธ์นั้นให้เราได้เชื่อถือได้มากขึ้นอีก แม้กระทั่งหน้าแรกของ Google หากคุณจะเข้าไปค้นหาอะไร แล้วทำการเข้าระบบ Gmail หรือ Google+ แล้วล่ะก็ ถ้าตรงกับวันเกิดของคุณ ก็จะมีหน้ายินดี Happy Birthday ให้คุณอีกต่างหาก

เมื่อ Google หยิบ Google Reviews มาช่วยปั่นอันดับ
เมื่อมี Google+ และสร้าง Local Business แล้ว ระบบการค้นหาของ Google จะมีการให้คะแนนของสถานที่เหล่านั้นว่าข้อมูลน่าเชื่อถือหรือเปล่า ผ่านการให้คะแนน Reviews เช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถแสดงความเห็นให้กับข้อมูลเหล่านี้ได้อีกด้วย ผ่าน Google Reviews (หลักการตัวนี้ถูก YouTube หยิบมาใช้ในการแสดงความเห็นไปแล้ว) ดังนั้น หากว่าธุรกิจของคุณมี KPI ที่จะเรียกคนไปยังร้านของคุณแล้วละก็ ให้รีบสร้าง หน้า Local Business หรือ Google+ Local ขึ้นมาสำหรับหน้าร้านของคุณ หลังจากนั้นก็ทำการ Optimize ข้อมูลตัวนี้เหมือนการสร้าง Asset บนโลกออนไลน์ ให้มี Asset ของเราเพิ่มขึ้นมาให้มากที่สุดนั่นคือการใช้ เพื่อน และลูกค้าของคุณมาช่วยจัดการข้อมูลผ่าน Google Reviews นับเป็นการทำกลยุทธ์ Digital Asset Optimization อีกวิธีที่จะช่วยดันอันดับของ Local Business ของคุณไปแทรกอันดับบนๆ ของหน้าการค้นหาได้อีกด้วย อีกทั้ง หากคุณมีผลลัพธ์ที่เป็น Negative Keyword ที่ไม่ดีต่อแบรนด์ของคุณ ผลลัพธ์ของ Local Business หรือ Google+ Local ก็ยังมีโอกาสไปดันผลลัพธ์แย่ๆ ให้หล่นลงไปอันดับท้ายๆ
ต่อไปนี้ จะเป็นการใช้ Online Personas หรือพนักงาน ไปจนถึงทีมงานการตลาดของคุณที่มีหน้าที่ช่วยเหลือการทำ Digital Asset Optimization ให้กับหน้า Local Business หรือ Google+ Local ของคุณให้มาปรากฏบนอันดับบนๆ

วิธีการใช้ Google Reviews

  1. ทำการเข้าระบบ (Sign in) บัญชีของคุณผ่าน Google Account (ทั้ง Google+ หรือ Gmail ก็ได้) ถ้าอยู่ในหน้าการค้นหา ก็จะมีปุ่มเข้าระบบมุมบนขวาปรากฏขึ้น
  2. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ทำการ ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ในตัวอย่างของผมนั้นเป็นคำว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ จก (มหาชน) สาขาถนนร่มเกล้า” ผ่าน Google Maps เนื่องจากทางผมเคยสร้างหน้า Local Business ไว้แล้ว ไปที่ปุ่มเล็กๆ ที่เขียนว่า Write a review ใต้ชื่อของสถานที่ Local Business ของเราครับ
  3. กรณีถ้าเป็น Google Plus Local Page ให้ไปที่ Home ในหน้า Google+ Account แล้วทำการคลิกที่ Local เพื่อทำการ Review ตัว Local Business ค้นหาสถานที่ที่เป็น Local Business ของเราอีกที
  4. หากว่าเป็น Google+ Local Business ให้คลิกที่ ปุ่มสัญลักษณ์ไอคอนรูป ดินสอครับ
  5. เขียนข้อความ Reviews และเพิ่ม Rating ของหน้า Local Business นั้นๆ ลงไป จะดีมากถ้าได้รับการรีวิวจากลูกค้าของเราจริงๆ มากกว่าหน้าม้าในองค์กรของเราครับ

ขั้นตอนเบื้องต้นที่อธิบายไปนั้นไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทีนี้มาดูกันว่า Rating แค่ไหนที่จะทำให้เราได้เห็นว่า Loca Business ของเรานั้น ปรากฏบนหน้าแรก กลไลค์ที่ Google จะจับหน้า Local Business ของเราไปติดหน้าแรกนั้น จะประกอบไปด้วยสิ่งเหล่านี้ครับ

  • General Ranking Factors
  • Specific Ranking Factors
  • Negative Ranking Factors

General Ranking Factors คือการคลิก และเข้าชมจากการค้นหาสถานที่ ผ่าน Desktop หรือ Mobile แบบปรกติ และมียอดการค้นหาเติบโตแบบ Organic หรือเป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ต้องการทราบเส้นทาง โปรโมชัน หรือ พิกัดก็จะค้นหา เมื่อพบก็จะคลิกเข้าไป

Specific Ranking Factors คือการใช้คะแนน Score ของการค้นหา สถานที่ Local Business เหล่า นั้น ข้อมูลใน Factors นี้อาจจะยังไม่ชัดเจนแต่ก็มีการทำกรณีศึกษามาบ้าง เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง เริ่มมีการค้นหาสถานที่ผ่าน Local Business ผู้บริโภคที่สนใจในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะทำการค้นหาผ่าน Google ผ่าน Local Business ใน 20 อันดับแรก อันดับในครั้งแรกจะไม่มีการแกว่งใดๆ แต่ถ้ามีความนิยมในการเข้าชมผ่านหน้านั้น 65-75เปอร์เซ็นต์ ที่เข้าซ้ำกัน อันดับของ Google Local Business จะเปลี่ยนไป อีกทั้งคะแนนของความนิยมจะถูกเพิ่ม หรือเร่งได้ผ่านการให้ Rating จากสัญลักษณ์รูปดาว และการกรอกข้อความ Reviews ลงไปในสถานที่แห่งนั้น

Negative Ranking Factors จะมีผลต่ออันดับในการแสดงหน้า Local Business เนื่องจาก การให้คะแนนจะมาจากรีวิวที่มาจากความรู้สึก และความสนใจในหน้า Local Business นั้นอย่างมาก ผลลัพธ์การรีวิวที่เกิดจากความไม่พอใจของผู้บริโภค จะมีผลต่อคะแนนที่ Google Local Business นั้นอย่างชัดเจน และรวดเร็วกว่าการปรับให้คะแนนดีขึ้น ประเด็นที่พบบ่อยคือการถูกโจมตี หรือการระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ตรงประเด็น หรือไม่ถูกต้องทำให้ค้นหาผ่าน Local Search ไม่ได้

201404231002c5f5Mobile จะมีสัดส่วนการค้นหาที่สูงกว่า Desktop PC

กระบวนการปรับ Local Business ที่มีผลต่อ Factors อื่นๆ มีอะไรบ้าง

สำหรับกระบวนการทำ Optimize ตัว Local Business นั้นจะมี การปรับแต่งข้อมูลต่อไปนี้ พร้อมกับ คะแนน หรือ Points ที่จะมีผลต่อการจัดอันดับของหน้าการค้นหาผ่าน Local Search

Link Signals หรือการสร้าง Link ให้วิ่งมาที่ Local Business ของ Google+ Local Page ไปจนถึงการฝาก Link ในหน้าต่างๆ จะได้คะแนน 14.4เปอร์เซ็นต์

On- Page Signals การปรับแต่งหน้า Google+ Local Business ให้มีคำอธิบาย และ ชื่อของสถานที่นั้นจะได้คะแนน 18.8เปอร์เซ็นต์

Behavioral / Mobile Clicks to Calls การวิเคราะห์ยอดการคลิกต่อยอดการมองเห็น (CTR – Click Through Rate) และการกด Click To Call เพื่อโทรออกเลยหลังค้นหาผ่าน Google จะได้คะแนน 6.1เปอร์เซ็นต์

พฤติกรรมการค้นหาบน Mobile นั้น กำลังมาแรง และโอกาสที่จะทำส่วนนี้ได้จะมีโอกาสที่สูง แม้คะแนนของการจัดอันดับจะน้อย

Social Signals การแชร์สถานที่ หรือพิกัดผ่าน Social Network จะช่วยให้เกิด Virality สูงขึ้น เราจะได้คะแนน 6.3เปอร์เซ็นต์

ส่วนที่มีผลต่อ อันดับที่แท้จริงๆ นั้นคือ Place Page Signals และ Review Signals

Place Page Signals การวาง Keywords ที่ตรงประเด็น และตอบโจทย์การค้นหา อย่าง Keywords in Business Title คำค้นหาที่ปรากฏบนหน้า สถานที่จะช่วยเพิ่ม Factor ของคะแนนได้สูงถึง 19.6เปอร์เซ็นต์

ส่วน Review Signals หรือหน้าของการ Review ตัว Local Business นั้นจะได้คะแนน 10.3 เปอร์เซ็นต์

โอกาสจริงๆ ที่เราจะทำส่วนของ Place Page Signals จะยากมาก เพราะการแข่งขันบนโลกของ Search Marketing นั้นสูง สิ่งที่จะจัดการได้ง่าย และทำได้เลยจริงๆ

กลวิธีที่จะใช้งานได้จริงๆ และลองปฏิบัติได้ในตอนนี้ แนะนำให้เล่น แค่ 3 กลยุทธ์คือ

  • Social Signals
  • Behavioral / Mobile Clicks to Calls
  • Review Signals

เพราะ 3 กลยุทธนี้ แทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการปรับแต่งอะไร และดำเนินการได้ง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นที่เป็นนักการตลาดมือใหม่

จะเห็นว่าตอนนี้ Google มีอะไร ต่อมิอะไรที่ปรับเปลี่ยนให้เราวิ่งตาม แม้ว่าจะดูเรื่องมาก ยากเย็น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วหากว่าเราสามารถทำให้ธุรกิจของเรามีโอกาสไปปรากฏบนหน้าแรกของ Google ได้ทั้งผลลัพธ์ และ Local Business โอกาสของการทำกำไร และยอดขายของเราก็จะมีการเพิ่มขึ้น  ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบแล้วและพร้อมที่จะทำ เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์  ทางเรามีบริการ รับทําเว็บขายของออนไลน์  จัดทำโดยทีมงามมืออาชีพที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่โด่ดเด่นไม่แพ้ใคร

ที่มา : http://www.ecommerce-magazine.com