Amazon เปิดตัวปุ่ม Dash Button กดปุ๊บซื้อปั๊บ

เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอเมริกัน Amazon เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Dash Button แนวคิดของบริการนี้สุดแสนเรียบง่ายเพราะเพียงกดปุ่มที่มีโลโก้แบรนด์สินค้าที่ต้องการ Amazon ก็จะจัดส่งสินค้านั้นถึงบ้าน โดยปุ่ม Dash Button นั้น Amazon จะมอบให้สมาชิกบริการ Amazon Prime ฟรี แต่มีข้อแม้ว่าลูกค้า Amazon จะต้องระวังบุตรหลานไม่ให้กดปุ่มนี้เล่น

ปุ่ม Dash Button จาก Amazon นี้อาจดูเหมือนของเล่น แต่ความจริงแล้วบริการนี้ได้รับคำชมว่าจะทำให้ลูกค้า Amazon สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้งานประจำได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อ โดย Dash Button แต่ละชิ้นจะให้บริการแยกเฉพาะแบรนด์สินค้าอย่างผงซักฟอก กาแฟ หรือโฟมล้างหน้า ซึ่งผู้ใช้จะต้องเลือกสินค้าที่ต้องการ ก่อนจะติดปุ่ม Amazon Dash Button ไว้ในบริเวณที่เห็นได้ง่ายเมื่อใช้งานสินค้านั้น

การจะรับสินค้าที่ชื่นชอบจาก Amazon ด้วยการกดปุ่ม Dash Button เหมือนในวิดีโอนั้นจะต้องเริ่มที่การลงทะเบียนหรือ sign up เพื่อเลือกรับ Dash Button ของแบรนด์สินค้าที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็ต้องมีสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพพลิเคชันของ Amazon อยู่ด้วย

ในเพจของ Amazon อธิบายการทำงานของ Dash Button ไว้ว่าตัวปุ่มจะทำงานกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ผ่านเครือข่าย Wi-Fi การกดปุ่มเพียงครั้งเดียวบน Dash Button ที่เชื่อมต่อแล้วจะทำให้ Amazon ส่งข้อความยืนยันสถานะการสั่งซื้อมาที่โทรศัพท์ ดังนั้นลูกค้าจะสามารถยกเลิกคำสั่งซื้อนั้นได้ง่ายมากหากเปลี่ยนใจ

ความง่ายของ Dash Button ถูกมองว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าพ่อวงการอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ซึ่งแม้บริการนี้จะยังอยู่ในช่วงทดลอง แต่ก็ถือเป็นสีสันที่น่าสนใจและมีแนวโน้มต่อยอดธุรกิจให้ Amazon ในอนาคต

สินค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้กับ Amazon มีทั้งกลุ่มเครื่องดื่ม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว กระดาษชำระ และเครื่องประทินผิว คาดว่าจำนวนสินค้าเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นแน่นอนเมื่อ Dash Button เปิดให้บริการเต็มตัว

จากบทความข้างต้นเชื่อเลยว่า ต้องมีคุณผู้อ่านหลายท่านต้องอยากได้ปุ่มนี้มาติดตั้งไว้ที่บ้านกันแน่ๆ กดปุ๊บ สุ่งปั๊บ รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งสั่งซื้อแบบเดิมๆอีกต่อไป และก็ยังเชื่ออีกว่าเจ้าของเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์อีกมากมาย ต้องรีบนำแนวทางนี้ไปประยุกต์ใช้กับการทำเว็บไซต์ e-commerce ของท่าน  เพราะนอกจากจะสะดวก ยังสามารถเพิ่มยอดขายของสินค้าได้มากขึ้นอีกด้วย จากกลุ่มลูกค้าเก่าๆที่ชื่นชอบในตัวสินค้า พอของหมด ก็กดสั่ง กลยุทธ์การค้าดีๆแบบนี้ อีกไม่นานคงมีเกลื่อนตลาดกันอย่างแน่นอน

ที่มา : Gizmodo