7 ขั้นตอนการทำ E-COMMERCE สำหรับมือใหม่ !!

11
Jun

7steps

1.หาความต้องการของตลาดและก็เติมเต็มซะ

หลายคนมีความเข้าใจที่ผิดที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ Ecommerce จากการหาสินค้ามาขายก่อน แล้วค่อยหาตลาดว่าจะเจาะตลาดใหนดี? แต่ในการเพิ่มโอกาสที่จะสำเร็จได้ เราควรเริ่มจากการหาโอกาสก่อนซึ่งเทคนิคคือพยายามหาปัญหาของคนที่เค้าต้องการอะไรมาแก้ปัญหานั้น และก็ยังไม่มีตัวเลือกในการแก้ปัญหานั้นเท่าใหร่ โดยอินเตอร์เน็ตสามารถช่วยให้คุณทำ Research เรื่องนี้ได้ง่ายมากเช่น

  • เข้าเว็บบอร์ดต่างๆ อย่างเช่น Pantip / Jeban / Dek-d และอื่นๆอีกมากมายเพื่อเข้าไปอ่านประเด็นต่างๆที่คนพบปัญหา
  • ลองค้นหาความต้องการจากการ Search ใน Google ดูเพื่อหาว่าคนส่วนใหญ่ค้นหาอะไรกัน
  • เข้าเว็บไซต์คู่แข่งดูศักยภาพการแข่งขันว่าคุณสู้ไหวไหมและก็จดออกมาว่าคู่แข่งคุณมีอะไรที่ไปตอบโจทย์ลูกค้าได้บ้าง และคุณเองก็ทำการบ้านเพื่อหาจุดที่คุณทำได้ดีกว่าคู่แข่งคุณและตอบโจทย์ลูกค้าเช่นกัน
  1. เริ่มเขียนคำโฆษณาที่โดนๆในการทำเว็บไซต์ Ecommerce
  • ปลุกความสนใจด้วยหัวข้อโดนๆ
  • อธิบายปัญหาที่สินค้าคุณช่วยแก้ไข
  • เสนอความเชี่ยวชาญที่คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้
  • เพิ่มตัวอย่างคนที่ใช้สินค้าคุณมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  • อธิบายถึงตัวสินค้าและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
  • แสดงข้อเสนอให้ชัดเจน
  • แสดงการรับรองว่าใช้ได้ผล
  • สร้างการโน้มน้าวให้ลูกค้าต้องซื้อโดยเร็ว
  1. ออกแบบและเริ่มทำเว็บไซต์ Ecommerce

เมื่อคุณพบตลาดและสินค้าแล้ว และคุณพร้อมจะเข้าสู่การขายแบบเต็มตัว คุณต้องเริ่มทำเว็บไซต์ขึ้นมาซึ่งข้อแนะนำคือ “ทำให้เรียบง่าย” คุณมีเพียงไม่เกิน 5 วินาที ที่จะสร้างความสนใจแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์คุณ มิฉะนั้นเค้าก็จะออกจากเว็บคุณและอาจจะไม่กลับมายังเว็บไซต์คุณอีกต่อไป ผมมีเทคนิคเล็กน้อยมาให้กันครับ

  • เลือก 1-2 ตัวอักษร(Font) และใช้พื้นขาว
  • ทำให้การเข้าสู่หน้าต่างๆเข้าใจง่ายและหาง่าย และเหมือนกันทุกหน้า
  • เลือกใช้รูป เสียง และวีดีโอเฉพาะจุดที่จะเพิ่มความน่าสนใจกับเนื้อหาเท่านั้น
  • เพิ่มการลงทะเบียนรับข่าวสารหรือสิทธิพิเศษต่างๆเพื่อเป็นการเก็บฐานข้อมูลลูกค้า
  • ทำให้ซื้อได้ง่ายโดยไม่เกิน 2 คลิกต้องซื้อได้
  1. ใช้การตลาดผ่าน Search Engine เพื่อดึงคนเข้าเว็บไซต์

การลงโฆษณาแบบ Pay Per Click เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการดึงคนเข้าเว็บไซต์ใหม่ ซึ่งข้อดีเด่นๆๆเลยคือคุณสามารถติดอันดับบน Google ได้ทันที และคุณสามารถลองคำค้นหาต่างๆได้ เพื่อค้นหาคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

  1. ประกาศความเป็นผู้เชี่ยวชาญในตัวคุณ

คนเราส่วนใหญ่หาข้อมูลออนไลน์ และการที่คุณให้ข้อมูลของคุณไปเผยแพร่ฟรีๆที่เว็บไซต์อื่นๆจะช่วยส่งเสริมให้เว็บคุณติดอันดับบน Google ได้ง่ายขึ้น ลูกเล่นง่ายๆคือใส่ลิ้งก์กลับไปยังเว็บไซต์คุณเสมอเพื่อให้เกิดการ Refer กลับมายังเว็บไซต์คุณ

  • สร้างเนื้อหาดีๆไม่ว่าจะเป็นบทความ วีดีโอ และอื่นๆและก็แจกจ่ายไปทุกสื่อออนไลน์เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • เพิ่มปุ่ม “Send to friend” หรือ “Share” เพื่อให้คนอ่านสามารถส่งต่อได้
  • คอยเป็นคนที่ขยันเข้าไปตอบโต้ในกลุ่มคนในสายธุรกิจเดียวกับเรา
  1. ใช้พลังของ E-Mail marketing เพื่อเปลี่ยนคนเข้าชมเว็บไซต์เป็นลูกค้า

เมื่อคุณได้เริ่มสร้างฐานข้อมูลลูกค้าแล้วเท่ากับคุณได้เริ่มสร้างทรัพย์สินที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจออนไลน์แล้ว เพราะลูกค้าที่ให้คุณส่งเมลล์ไปหาเขาได้แปลว่า

  • คุณสามารถตอบโจทย์บางอย่างที่เค้าต้องการได้
  • คุณกำลังสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดไป
  • สามารถวัดผลได้ 100%
  • ต้นทุนการทำ E-mail marketing ถูกกว่าการทำการตลาดบน TV หรือวิทยุหรือป้ายตามทางด่วนแน่นอน
  1. เพิ่มยอดขายด้วยการหาสินค้ามาเสนอเพิ่มแก่ลูกค้าเดิมหรือให้ลูกค้าซื้อซ้ำ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ Internet marketing ก็คือการรักษาฐานลูกค้าเดิมให้อยู่กับเรา ซึ่งสถิติบอกว่า 36% ที่เคยซื้อสินค้าจากเรา จะกลับมาซื้อของเราอีกถ้าเรารักษาความสัมพันธ์ได้ดี ถึงแม้การปิดการขายครั้งแรกจะยากขนาดใหนก็ตามแต่การทำให้เค้าซื้อซ้ำได้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งความสำเร็จได้เช่นกันโดยวิธีการมีดังนี้

  • เสนอสินค้าที่สามารถเติมเต็มสินค้าเดิมของลูกค้าที่ซื้อไปได้
  • ส่งคูปองพิเศษไปให้ลูกค้า
  • เสนอสิทธิพิเศษหลังลูกค้าซื้อสินค้าครั้งแรกเลยทันที

ทั้งหมดนี้เป็น 7 ขั้นตอนหลักๆที่คุณต้องทำนึงก่อนทำเว็บไซต์ Ecommerce หากท่านใดอยากจะทำเว็บไซต์ Ecommerce เป็นของตนเองทางเรามีบริการ รับทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์   

ที่มา : http://www.iamsuebsak.com/e-commerce-tips/7-ขั้นตอนการทำ-e-commerce-สำหรับคน/