จับกระแสธุรกิจ E-Commerce ปี 2015

26
Dec

E Commerce 2015

ในยุคที่ เว็บไซต์ E-Commerce กำลังมาแรง เป็นทิศทางการตลาดแนวใหม่ และเป็นเครื่องมือหรือช่องทางที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยไม่น้อย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร้พรมแดน และรวดเร็ว คุณ Tom Caporaso CEO of Middletown, Connecticut-based Clarus Marketing Group ร่วมกับ Inc.com คาดการณ์แนวโน้มตลาด E-Commerce สำหรับปี 2015 ที่กำลังจะถึงในอีกไม่ช้า มาดูกันว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ และอะไรกำลังจะมา

1. โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์มือถือ
คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะขณะนี้เราทุกคนต่างก็ทราบกันดีว่าโทรศัพท์มือถือมีความจำเป็นมากแค่ไหน ทั้งก่อนการซื้อสินค้า หรือแม้หลังแต่การซื้อสินค้า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลของสินค้าก่อน และติดตามรีวิวเมื่อได้เริ่มใช้สินค้าไปแล้ว ซึ่งเป็นการสร้างความสบายใจในการซื้อ นอกจากการหาข้อมูลแล้ว ยังมีการซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น หรือเข้าเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

2. ลูกค้าคือผู้ควบคุมทุกอย่าง
ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ลูกค้า คือ พระเจ้า” คุณอาจสงสัยว่าแล้วประโยคนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับ เว็บไซต์ E-Commerce เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจใดก็ตาม ลูกค้าย่อมสำคัญเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้ามีอาวุธสำคัญอยู่ในมือ พวกเขาสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคา โปรโมชั่น ค้นหาส่วนลดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาพร้อมจะปกป้องสิทธิ์ตัวเองอย่างเต็มที่ สิ่งที่คุณควรทำคือ ทำอะไรก็ได้เพื่อผู้บริโภคอยู่บนเว็บไซต์ของคุณให้นานที่สุด จนกระทั่งพวกเขาซื้อสินค้า

3. สร้างความโดดเด่น
คุณจะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ร้านคุณแตกต่างจากร้านอื่นๆ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้บริโภคมีพลังในการจับจ่ายสูง ถ้าพวกเขาเจอสิ่งที่คิดว่าใช่จริงๆ เขาก็พร้อมที่จะจ่ายทันที ซึ่งถ้าลูกค้ายังไม่แน่ใจ คุณสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรงเพื่อช่วยหาในสิ่งที่พวกเขาต้องการ พยายามเป็นมิตรกับลูกค้า แสดงความเป็นกันเอง เน้นขายสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม (ไม่แพงหรือถูกเกินไป) หรือจะเสนอค่าจัดส่งฟรี ส่งภายใน 1 วัน เพื่อให้ทันต่อความต้องการ ซึ่งการสร้างความโดดเด่นนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

4. สู้ด้วยแคมเปญช่วงเทศกาล
ในช่วงวันหยุดยาว เหล่านักช้อปออนไลน์ทั้งหลายก็ตั้งตารอดูโปรโมชั่นจากร้านต่างๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะได้ช้อปปิ้งอย่างซะใจส่งท้ายปี ได้ทั้งของคุณภาพดี ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม พวกเขาจะแบ่งเงินส่วนนี้เพื่อเตรียมช้อปในวันหยุดยาวโดยเฉพาะ ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ ในปี 2015 ให้คุณวางแผนไว้ตั้งแต่ปีนี้เลยว่าในช่วงเทศกาลต่างๆ คุณจะมีโปรโมชั่นใดบ้าง วันแม่ วันพ่อ วันวานเลนไทน์ วันส่งท้ายปีเก่า วันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ ถ้าคุณทำอย่างสม่ำเสมอทุกเทศกาล ลูกค้าขาจรก็อาจจะเปลี่ยนเป็นลูกค้าประจำ และยังได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

5. กลยุทธ์ Omni Channel
เขาว่ากันว่าในปี 2015 จะหมดยุค E-Commerce แล้วก้าวเข้าสู่ยุค Omni Channel แล้ว เพราะการเข้าถึงลูกค้าผ่านเว็บไซต์อย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอแน่นอน แต่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นควบคู่ไปด้วย เช่น แสดงข้อมูลสินค้าในขณะที่ลูกค้าอยู่ในร้าน หรือถ้าลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และต้องการไปรับสินค้าเอง โดยรับที่สาขาใกล้บ้านหรือที่ทำงาน แจ้งผ่านทางแอพพลิเคชั่น คุณจะอาจให้ส่วนลดสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้อีก 10% ก็ได้เช่นกัน

6. สร้างความภักดีในตราสินค้า
หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของผู้ประกอบการค้าปลีกคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าครั้งแรก กลับมาซื้อสินค้าอีก และต้องเป็นลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ด้วย โดยคุณ Caporaso กล่าวว่า “กุญแจสำคัญคือ มีโปรโมชั่นที่ดีเพียงครั้งเดียว และเปลี่ยนให้กลายเป็นความภักดีในระยะยาว” นั่นหมายความว่าโปรโมชั่นนั้นต้องสร้างความเชื่อมั่น สร้างทัศนคติที่ดีต่อสินค้า ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เข้าไปอยู่กลางใจผู้บริโภค

7. ส่งฟรีเมื่อมีการเปลี่ยนสินค้า
ถ้าเป็นการซื้อ-ขายแบบธรรมดา ที่สินค้าไม่มีปัญหาอะไร ผู้รับพอใจในสินค้า ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสินค้า แต่ถ้าสินค้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา และลูกค้าต้องการเปลี่ยนสินค้า แต่ว่าพวกเขาต้องเสียเงินเพื่อส่งสินค้ากลับไปยังผู้ขาย คุณ Caporaso เผยว่า มีผู้บริโภคกว่า 90% ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องจ่ายค่าส่งสินค้าคืนด้วย ซึ่งจะทำให้พวกเขามีประสบการณ์ที่ไม่ดีนักต่อแบรนด์ของคุณ ถ้าคุณต้องการรักษาลูกค้าไว้ ในกรณีนี้คุณควรจ่ายค่าส่งสินค้าให้ หรือกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภครับทราบและเข้าใจระเบียบการทำงานของคุณ

ทราบอย่างนี้แล้ว เมื่อปี 2015 มาถึง รู้แล้วนะว่าต้องทำอย่างไร ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ คงจะบูม และ บริษัท รับทำเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์คงมากขึ้นอย่างแน่นอน