มาอีกหนึ่ง ! Instagram แอบซุ่มเปิดตัวระบบชำระเงินช็อปปิ้งแล้ว

มาอีกหนึ่ง ! Instagram แอบซุ่มเปิดตัวระบบชำระเงินช็อปปิ้งแล้ว
23
Jul

งานนี้ใครชอบซื้อทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ ของบน Instagram คงได้ติดแอปฯนี้งอมแงมไม่ต้องออกไปไหนแล้ว เพราะ Instagram จะให้เราลงทะเบียนบัตรเครดิตและเดบิทบนโปรไฟล์ ตั้งรหัส แล้วช็อปให้สะใจไม่ต้องออกจากแอปฯไปเข้าเว็บไซต์ หรือนั่งกรอกข้อมูลเพื่อชำระเงินอีก  และไม่ใช่แค่ช็อปซื้อของ แต่ใช้ Instagram จองโต๊ะในร้านอาหารได้ด้วย และในอนาคตก็ใช้ซื้อซื้อตั๋วหนังได้อีกต่างหาก ซึ่งระบบจ่ายเงินใน Instagram มีให้เห็นแล้วกับคนใช้ Instagram บางรายในอเมริกา ระบบฯ นี้ก็จะมีกฎในการจ่ายเงินของ Facebook กำกับอยู่

ส่วน Shoppable tag ที่ทดสอบในช่วงปี 2016 เพื่อเป็นแทกบนตัวสินค้าเพื่อกดไปดูรายละเอียด ก็คาดว่าจะทำงานเข้ากับระบบจ่ายเงินที่ Instagram แอบอัพเดท

แบรนด์ที่เน้นขายของใน Instagram อาจหันมาพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมขาช็อปให้ช้อปในแอปฯมากขึ้น

การอัพเดทระบบจ่ายเงินใน Instagram อาจกลายเป็นเหตุผลใหม่สำหรับการ ทำเว็บไซต์ ขายของ ที่คนทำ E-Commerce ต้องหันมาศึกษาและใช้งาน Instagram อย่างจริงจัง เมื่อจ่ายจบครบในแอปฯ คนซื้อของก็ไม่ต้องออกจากแอปฯกลางคันตอนเช็กเอ้าท์จ่ายเงิน

ไปตัดผมก็จ่ายเงินผ่าน Instagram ได้

นี่อาจเป็นสาเหตุที่เราโพสลิงค์ใน Caption ของรูปใน Instagram แล้วกดต่อไปไม่ได้ 

เพราะแอปฯไม่ต้องการให้เราทำแบบนั้น การกดออกจากแอปฯเพื่อจ่ายเงินทำให้แคมเปญการตลาดใน Instagram ที่ต้องการกระตุ้นให้คนอยากกดซื้อทันทีไม่ได้ผลเท่าที่ควรจะเป็น

ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิทและต้องรหัสความปลอดภัยในโปรไฟล์

หรือคนซื้อของบน Instagram อาจต้องเปลี่ยนวิธีช็อปฯ?

เพราะจะว่าไปแล้วก็มีคนซื้อของหลายๆคนชอบแคปฯหน้าจอใน Instagram ไปถามรายละเอียดเพิ่มเติมในแชทแอปอย่าง Line และโอนเงินอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเสียเวลาหลายต่อมาก หากระบบจ่ายเงินใน Instagram ต้องมาดูว่าคนไทยจะยอมเปลี่ยนพฤติกรรมการช็อปปิ้งหรือไม่

Shoppable Tag ไว้กดดูรายละเอียดสินค้า

การอัพเดทระบบจ่ายเงินใน Instagram อาจกลายเป็นเหตุผลใหม่สำหรบกลุ่มคน รับทำ online shop หรือคนที่ทำ E-Commerce ต้องหันมาศึกษาและใช้งาน Instagram อย่างจริงจัง ฉะนั้นถ้า Instagram ทำให้คนจ่ายเงินจบในแอปฯเดียวได้ล่ะก็ งานนี้ได้เห็นคนทำโฆษณาขายของบน Instagram ยิงโฆษณากันกระจุยแน่นอน 

ที่มา : www.marketingoops.com