สั่งกันไม๊ สั่งกันไม๊ ราเม็งห่อละร้อย!! กรณีศึกษาของ Nissin กับการเปิดเว็บขายราเม็งถ้วยพันธุ์ใหม่

สั่งกันไม๊ สั่งกันไม๊ ราเม็งห่อละร้อย!! กรณีศึกษาของ Nissin กับการเปิดเว็บขายราเม็งถ้วยพันธุ์ใหม่
16
Aug

ไม่ธรรมดาแน่นอนเมื่อ Nissin เปิดพรีออเดอร์ราเม็งกึ่งสำเร็จรูปรุ่นใหม่ล่วงหน้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวทำเว็บไซต์ ขายของนั่นคือราเม็งถ้วยพันธุ์พิเศษที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนตามร่างกายต้องการสำหรับ 1 มื้อ จัดเต็มวิตามิน 13 ชนิด โปรตีนเกลือแร่ 13 กลุ่ม พร้อมไฟเบอร์สอดไส้ในเส้นราเม็งสุดนุ่ม สนนราคาเริ่มต้นเฉลี่ยห่อละประมาณ 100 บาทหรือ 400 เยน บนโปรโมชันลดราคาให้ผู้ที่จองก่อนใครผ่านร้านที่ทำเว็บไซต์ ขายของแบบแพค 5

All-in Series คือชื่อแบรนด์เส้นราเม็งและพลาสต้ากึ่งสำเร็จรูปเวอร์ชันล่าสุดที่ Nissin ในเครือ Cup Noodle สร้างสรรค์ขึ้น จุดต่างสำคัญไม่ได้อยู่ที่การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง 40% เมื่อเทียบกับเส้นปกติของ Nissin เท่านั้น แต่ตัวเส้นในซีรีส์นี้จะต้องใช้เวลาต้มนาน 4 นาที นานกว่าเล็กน้อยสำหรับเส้นกึ่งสำเร็จรูปแบบมาตรฐานที่ต้ม 3 นาที ขณะเดียวกันก็มีวันหมดอายุเร็วกว่าปกติ

ความน่าสนใจของ All-in Series คือการเปิดพื้นที่ทำเว็บไซต์ ขายของเพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายจริง จนเป็นที่กล่าวขานและส่งต่อทั่ว Twitter ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา กลายเป็นพายุกระจายข่าวว่าผู้สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ allinseries.jp เพื่อรอรับบะหมี่ถ้วยสารอาหารแน่นหลายรสชาติ โดย All-in Plasta นั้นวางจำหน่ายไปล่วงหน้าก่อ All-in Noodles ที่จะเริ่มจัดส่งวันที่ 19 สิงหาคมเป็นต้นไป

ญี่ปุ่นทำได้ ขายราเม็งถ้วยแบบเก๋ไก๋บนเว็บไซต์

หากคลิกที่ allinseries.jp จะพบว่า Nissin ลงมาจับงานค้าปลีกเองมาตลอด สำหรับสินค้าใหม่กลุ่ม All-in Series ที่ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ All-in Plasta และ All-in Noodles ทำเว็บไซต์ ขายของระบุส่วนลดราคา 10-20% ซึ่งเปิดให้ลูกค้าเลือกได้ตั้งแต่แบบห่อเดี่ยว 400 เยน แบบถ้วย 600 เยน ไปจนถึงแบบกล่องบ็อกซ์เซ็ต 6 ถ้วยที่ลดราคาจาก 3,600 เยน เหลือ 3,240 เยน (ราว 940 บาท)

allinseries.jp เป็นส่วนหนึ่งของร้านใหญ่ store.nissin.com/jp/ ซึ่ง Nissin เลือกรวมงานค้าปลีกและการตลาดเข้าด้วยกัน ในเว็บไซต์มีโซนรวบรวมส่วนลดราคาบะหมี่ถ้วยสูงสุด 40% และมีการแสดงวันหมดอายุสินค้าเป็นตัวแดงใหญ่ใต้รูปชัดเจน

Nissin เพิ่มความขลังให้กับร้านที่ทำเว็บไซต์ ขายของของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์สินค้าเอกลักษณ์เพื่อจำหน่ายบนเว็บไซต์โดยเฉพาะ เช่น “ช่อบะหมี่ถ้วย” หรือ Noodle Bouquet ที่นำถ้วยบะหมี่ Nissin มาจัดเป็นช่อดอกไม้สีสวยพร้อมโบว์หรูหราราคา 3,070 เยนต่อ 7 ถ้วย (ราว 890 บาท) กลายเป็นสีสันที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากร้านออนไลน์ของ Nissin

ยังมี กล่องบรรจุบะหมี่ Nissin แบบคละรสเต็มกล่อง ซึ่งแฟน Nissin สามารถสั่งซื้อเพื่อเพลิดเพลินกับหลากรสหลายสไตล์แบบไม่ต้องเหนื่อยเดินไปสะสมหรือหาซื้อเองตามร้านค้า สนนราคา 18-19 ถ้วยอยู่ที่ 3,969-4,073 เยน แต่ลดราคาเหลือ 3,440 เยนเท่ากัน (ประมาณ 1,000 บาท)

นอกจาก store.nissin.com/jp/ แบรนด์ Nissin ยังพยายามสร้างตัวตนบนออนไลน์ด้วยการเปิด nissinfanstore.comซึ่งเป็นเว็บไซต์สากลที่ Nissin ตั้งใจบุกตลาดสหรัฐอเมริกา น่าเสียดายที่บนเว็บไซต์นี้เปิดจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่ระลึกพิมพ์สัญลักษณ์ Nissin เช่น เสื้อ ถ้วย ชาม กระดาษห่อของขวัญ หมวก ถุงเท้า และคอสตูมที่จะแปลงร่างคนใส่ให้เป็นบะหมี่ถ้วยเดินได้ ราคาตั้งแต่ 8 เหรียญขึ้นไป

ต้องสร้าง demand ใหม่

การวางกลยุทธ์ค้าปลีกออนไลน์ของ Nissin เป็นไปตามทางเดียวกับที่ระบุในเอกสารชี้แจงผลประกอบการล่าสุด (เมษายน-มิถุนายน 2562) ว่า Nissin กำลังยกระดับสินค้าพรีเมี่ยม บนเป้าหมายมุ่งสร้างความต้องการใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาด ภาวะนี้เกิดขึ้นทั้งในตลาดทั้งในและนอกญี่ปุ่น เนื่องจาก Nissin เห็นโอกาสทำกำไรของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น

เฉพาะในตลาดทวีปอเมริกา Nissin ระบุว่าสินค้ากลุ่มราเม็งกึ่งสำเร็จรูปนั้นมียอดขายที่แข็งแกร่งในบราซิล และ CUP NOODLES ก็ประสบความสำเร็จเพราะการทำแคมเปญผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมในสหรัฐอเมริกา ทำให้ยอดขายโดยรวมในเซกเมนต์เพิ่มขึ้นจากผลของการแก้ไขราคาและการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม รายได้เฉพาะในตลาดนี้อยู่ที่ 15,128 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 15.5% ทีเดียว

ในภาพรวม Nissin กำลังพยายามเร่งเครื่องเพื่อหนีจุดอื่มตัว เห็นได้ชัดจากรายได้รวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เท่านั้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เบ็ดเสร็จแล้วช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2019 นั้น Nissin มีรายได้รวม 105,894 ล้านเยน สูงกว่าปี 2018 ที่ทำได้ 103,399 ล้านเยน

แต่เมื่อหักค่าใช้จ่าย Nissin กำลังเผชิญภาวะกำไรลด เพราะกำไรจากการดำเนินงานนั้นลดลงมากกว่า 32.8% ทำได้ 8,627 ล้านเยน จากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 12,833 ล้านเยน

สิ่งที่เราสรุปได้จากกรณีศึกษานี้คือ Nissin ก้าวไปไกลแล้วบนตลาดอีคอมเมิร์ซ หากเทียบกับตลาดไทย ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งฯในแดนสยามยังไม่ลงมาทำตลาดค้าปลีกออนไลน์เอง เว้นก็แต่รายใหญ่ที่มีสินค้าในเครือมากมายจนสามารถจำหน่ายเองทั้งผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ยาสีฟัน ฯลฯ แต่ในแง่ของการสร้างแบรนด์ ต้องยอมรับว่าแบรนด์บะหมี่กึ่งฯไทยมีตัวตนชัดเจนในโลกโซเชียล เห็นได้ชัดจาก #ไวไว ที่มีมากกว่า 4,531 โพสต์บน Instagram หรือ #มาม่า ที่มี 37,705 โพสต์ แม้จะยังไล่ตาม #nissin ที่มี 165,689 โพสต์ก็ตาม

ที่มา.https://www.thumbsup.in.th