เป็นที่ทราบกันดีว่ากำไรเป็นตัวตัดสินชะตาธุรกิจ ยิ่งตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้น การทําเว็บ e-commerce จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการพยายามหาแนวทางเพื่อสร้างกำไรให้กับบริษัทของตน
มีเหตุผลมากมายที่ทำไมนักช้อปฯ จำนวน 68% ถึงยกเลิกสินค้า ผู้ขายสินค้าออนไลน์ทั่วโลกสูญเสียรายได้ถึง 3 พันพันล้าน! ในแต่ละปีจากการยกเลิกสินค้า นับเป็นมูลค่ามหาศาลที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
ฟอร์เรสเตอร์คาดการณ์ ยอดจับจ่ายสินค้าในเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ในแดนมังกรคาดว่าจะทะลุล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2019 โดยเป็นผลจากการเติบโตของตลาดโมบายล์แอป
บริษัทลูกในเครือ Rocket Internet อย่าง Foodpanda ตะลุยซื้อ 6 บริษัทสตาร์ทอัปเพื่อรุกตลาด 7 ประเทศทั่วเอเชีย ที่น่าสนใจคือ 1 ในนั้นมีบริการ Food By Phone
ในยุคที่การทำการตลาดบนโลกออนไลน์กำลังเป็นที่น่าจับตามอง เว็บไซต์ที่มีการจัดเรียงหน้าตาให้อ่านง่าย และมีลักษณะการจัดการที่ดี จะช่วยส่งเสริมให้เป็นผู้นำของบล็อกที่โดดเด่น ดึงดูดผู้ชมเข้ามาได้มาก
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1500 ล้านคน Facebook จึงเป็นแพลตฟอร์มที่นักการตลาดวางไว้เป็นเป้าหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งดูจากสถิติในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเปรียบเสมือนปัจจัยที่ 5 ของชีวิตผู้คนในเมือง บวกกับ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีให้เลือกอย่างหลากหลายมากขึ้น เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่
เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซจีน Alibaba หรือที่เรารู้จักในชื่อของเจ้าพ่อเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีการเงิน 2014-2015 ของบริษัทว่าสามารถทำรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 40%
ในอเมริกามีบริการจัดส่งอาหารอยู่หลายเจ้า ที่ดังๆ ก็จะเป็น Seamless, Grubhub และ delivery.com ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Amazon ยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce ก็ขอลงมาเล่นในตลาดนี้ดูบ้าง
บริษัท Alibaba ได้ทุ่มทุนเกือบ 4 พันล้านบาท ตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร หนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ทำธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ บนแพลทฟอร์มของตัวเอง โดยองค์กรดังกล่าวมีชื่อว่า Alibaba Hong Kong Young Entrepreneurs Foundation
